จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคืออะไร? ทำไมต้องใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดน้ำเสีย? ไม่ใช้ไม่ได้หรือ ?




จุลินทรีย์ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆที่มีมานานพร้อมๆกับการเกิดของโลกใบนี้ จุลินทรีย์มีหลากหลายกลุ่มหลากหลายสายพันธุ์ มีเป็นล้านๆสายพันธุ์ก็ว่าได้ จุลินทรีย์มีทั้งประเภทใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพและทำปฏิกิริยาต่างๆ มีอยู่ในแทบทุกหนทุกแห่งที่มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะกับการอยู่รอดของมัน บางสายพันธุ์อยู่ในสภาวะไร้อากาศก็ได้ บางสายพันธุ์ต้องอยู่ในสภาวะที่มีอากาศเท่านั้น บางสายพันธุ์อยู่ได้ทั้งสองสภาวะทั้งมีหรือไม่มีอากาศก็ได้

   

จุลินทรีย์คืออะไร ?  

จุลินทรีย์หรือจุลชีพ ( Micro-organism ) คือ กลุ่มมีชีวิตขนาดเล็ก เป็นสัตว์เซลล์เดียว มีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งประเภทใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพ  แบ่งได้ตามคุณลักษณะมี  3  กลุ่มด้วยกันคือ .-

1. กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จุลินทรีย์กลุ่มที่ให้ประโยชน์นี้มีทั้งประเภทใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน ให้ประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ในหลายๆด้านด้วยกัน จุลินทรีย์กลุ่มนี้มีกระจายอยู่ในธรรมชาติรวมกันประมาณ  10%  ของจุลินทรีย์รวมทุกๆสายพันธุ์ 

2.  กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้โทษหรือกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีโทษ มีทั้งประเภทที่ใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน มีอยู่ในธรรมชาติประมาณ  10 % 

3.  กลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นกลาง มีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน เข้าร่วมกับกลุ่มใดก็ได้ใน 2 กลุ่มด้านบน จุลินทรีย์กลุ่มนี้มีมากที่สุดประมาณ 80% ในธรรมชาติ

   จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคืออะไร ?

ของเสียทั้งหมดทั้งมวลบนโลกใบนี้ล้วนอาศัยจุลินทรีย์ในการย่อยสลายทั้งสิ้น ซึ่งรวมทั้งน้ำเสียจากทุกๆแหล่ง และต้องเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียเท่านั้น จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียจัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์กลุ่มนี้ ซึ่งมีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย จุลินทรีย์กลุ่มนี้จะทำหน้าที่ในการย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียเพื่อให้มีขนาดโมเลกุลของเสียเล็กลงเรื่อยๆจนแปรเปลี่ยนสภาพสสารต่อไปกลายไปเป็น  น้ำ + พลังงาน + CO2  ในที่สุดของปฏิกิริยาตามสมการด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการย่อยสลายโดยกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจน ( ปฏิกิริยาการย่อยสลายของกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก )

   

ภาพบนเป็นการบำบัดน้ำเสียโดยกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในด้านการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ดำรงชีพและเจริญเติบโตขยายเซลล์โดยการใช้ออกซิเจน ( ขาดออกซิเจนไม่ได้ ) มีอยู่ทั่วๆไปในธรรมชาติทั้งในดิน น้ำ อากาศ แต่อยู่แบบกระจัดกระจาย ในการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียจึงต้องคำนึงถึงการรวมกลุ่มกันของจุลินทรีย์กลุ่มนี้เป็นหลัก เพื่อการรวมกลุ่มของจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียที่ใช้ออกซิเจน เนื่องจากเราต้องการดึงกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนมาใช้งานในการย่อยสลายของเสียให้มีปริมาณมากที่สุด จึงต้องออกแบบระบบบำบัดให้เอื้ออำนวยสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลาย ของเสียต่างๆในน้ำเสียยิ่งมีมากก็ต้องใช้ปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายมากตามไปด้วย ขาดจุลินทรีย์เมื่อใดหรือมีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายมีน้อยจะเกิดปัญหาขึ้นทันที ทั้งค่ามาตรฐานน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์หรือเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียวิกฤตมากยิ่งขึ้น  ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียเหล่านี้ ของเสียต่างๆรวมทั้งน้ำเสียคงล้นโลกไปนานแล้ว โลกใบนี้คงเต็มไปด้วยมลพิษและมลภาวะในสิ่งแวดล้อม  

 ในการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียในระบบบำบัดน้ำเสียทำได้ค่อนข้างยาก ต้องบริหารจัดการระบบในแต่ละจุดให้มีประสิทธิภาพ มีปัญหาในจุดใดจุดหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณของจุลินทรีย์ย่อยสลายได้ทุกเมื่อ เช่น เครื่องเติมอากาศเสีย  ค่าออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียมีน้อย ( ค่า DO ต่ำ ) เติมอากาศได้ไม่ทั่วถึงทั้งบ่อบำบัด ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้พบได้บ่อยๆในระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ ซึ่งเป็นระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ของประเทศไทยที่นิยมใช้กัน ระบบบำบัดล้มเหลวง่ายและบ่อยๆ ค่ามาตรฐานบางค่าหรือหลายๆค่าไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน้ำทิ้ง ซึ่งพบเป็นประจำและมีแทบทุกแห่ง ที่มีประสิทธิภาพจริงๆ ่ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งผ่านเกณฑ์ตลอดเวลาค่อนข้างจะหาได้ยาก ต้องมีการบริหารจัดการดูแลและบำรุงรักษาระบบบำบัดเป็นอย่างดีเยี่ยม ระบบบำบัดน้ำเสียจึงจะมีประสิทธิภาพได้เต็ม 100% ในการบำบัดน้ำเสีย

  ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า ในการบำบัดน้ำเสียให้ได้ประสิทธิภาพนั้นจะมีตัวแปรหลายๆอย่างมาเกี่ยวข้องในระบบ โดยเฉพาะปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลาย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการบำบัดน้ำเสียและในระบบบำบัดน้ำเสียที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าปราศจากจุลินทรีย์ย่อยสลายแล้ว ของเสียต่างๆบนโลกใบนี้ก็จะไม่ถูกย่อยสลาย ของเสียต่างๆก็จะล้นโลก ปัญหาของปริมาณจุลินทรีย์ในระบบบำบัดน้ำเสียจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ซึ่งกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียในระบบบำบัดน้ำเสียหรือในบ่อบำบัดน้ำเสีย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มจุลนทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก การควบคุมค่อนข้างทำได้ยากมีข้อจำกัดหลายๆอย่างด้วยกัน ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมหรือไม่เอื้อำนวยต่อการดำรงชีพ จุลินทรีย์ย่อยสลายกลุ่มที่ใช้ออกซิเจนก็ไม่สามารถเจริญเติบโตในบ่อบำบัดได้

  ดังนั้น  จึงมีการสังเคราะห์จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง ทำหน้าที่ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้เหมือนๆกัน แต่มีจุดด่นตรงที่สามารถควบคุมปริมาณและเพิ่มปริมาณได้ตลอดเวลา ประการสำคัญจุลินทรีย์กลุ่มนี้ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลาย ไม่มีการดึงออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นๆมาใช้ในการทำปฏิกิริยาและการดำรงชีพ จึงเป็นการช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย ย่อยสลายของเสียต่างๆในน้ำเสียให้มากขึ้นและเร็วมากขึ้น ของเสียต่างๆในน้ำเสียจะเหลือน้อยลง ( ตะกอนส่วนเกิน ) 

   จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสีย 

จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าตอบโจทย์การบำบัดน้ำเสียแบบไม่ใช้ออกซิเจน ใช้ได้กับระบบบำบัดน้ำเสียได้ทุกๆระบบ ไม่ว่าระบบบำบัดนั้นๆจะมีออกซิเจนเพียงพอหรือไม่มีออกซิเจนเลย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าก็สามารถทำงานย่อยสลายของเสียได้ตามปกติ ช่วยเพิ่มและเสริมประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย เพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ได้ประโยชน์ทั้งการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดกลิ่น

   จุลินทรีย์หอมคาซาม่า เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลาย สังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ควบคุมได้ง่าย สังเคราะห์ขึ้นได้ง่ายตามความต้องการ ต้องการให้มีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียในระบบบำบัดน้ำเสียมากหรือน้อยก็สามารถเพิ่มตามความต้องการได้ทันที ไม่ต้องใช้เทคนิคที่สลับซับซ้อนใดๆทั้งสิ้น  สามารถใช้ได้กับระบบบำบัดน้ำเสียทุกๆระบบ โดยไม่มีผลกระทบใดๆต่อสิ่งแวดล้อมและกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน สามารถทำงานย่อยสลายร่วมกันกับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนได้ดี จุลินทรีย์หอมคาซาม่าทำงานย่อยสลายของเสียได้ทั้งในสภาวะไร้อากาศและมีอากาศ ดังนั้น ถึงแม้ในน้ำเสียไม่มีออกซิเจนเลย จุลินทรีย์หอมคาซาม่าก็สามารถทำงานย่อยสลายได้ตามแกติ และยังมีคุณสมบัติเด่นๆที่กลุ่มจุลินทรีย์อื่นไม่มี นั่นก็คือ การกำจัดกลิ่นหรือการดับกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่นเอง

      

ภาพจำลองบนเป็นปฏิกิริยาการย่อยสลายของจุลินทรีย์หอมคาซาม่า ซึ่งจะได้ก๊าซมีเทนเพิ่มขึ้นมา( CH4 ) เป็นปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียที่ไม่ใช้ออกซิเจนในน้ำเสีย

    

ภาพบนการบำบัดน้ำเสียที่ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย 2 กลุ่ม คือ 
กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจน และ กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ไม่ใช้ออกซิเจน ( จุลินทรีย์หอมคาซาม่า )  


    


  จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียหรือจุลินทรีย์ที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย 

1. จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย  ( Aerobic  Bacteria ) จุลินทรีย์กลุ่มนี้จะนิยมนำไปใช้ในการบำบัดน้ำเสียมากที่สุด  ทุกๆระบบบำบัดน้ำเสียจะใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก โดยเฉพาะในระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ ( Activated  Sludge :  AS ) ซึ่งนิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน ระบบบำบัดน้ำเสียเกือบทุกแห่งนิยมใช้ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ

2. จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ( Anaerobic  Bacteria ) จะเป็นที่นิยมใช้น้อยที่สุด เพราะจะต้องทำการสังเคราะห์ขึ้นโดยเฉพาะ ในธรรมชาติจะมีน้อยและอยู่กระจัดกระจายทั่วๆไปตามดิน น้ำ อากาศ ไม่ค่อยรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนในปริมาณมาก  การนำจุลินทรีย์ย่อยสลายกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจนนี้มาใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ต้องทำการสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการ ซึ่งขั้นตอนต่างๆค่อนข้างยุ่งยาก จึงไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียกัน ซึ่งต่างจากกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายที่ใช้ออกซิเจนที่สามารถดึงมาจากธรรมชาติได้ง่ายกว่า

จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย จะเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในด้านการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียโดยเฉพาะ ซึ่งจุลินทรีย์กลุ่มนี้มีทั้งประเภทใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพและทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียต่างๆ มีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์ในเรื่องการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียต่างๆบนโลกใบนี้ต้องพึ่งพาและอาศัยจุลินทรีย์กลุ่มนี้ ถ้าโลกใบนี้ปราศจากจุลินทรีย์กลุ่มนี้แล้ว ของเสียต่างๆและน้ำเสียคงล้นโลกไปนานแล้ว นี่คือที่มาของจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนั่นเอง  จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียทั้งสองกลุ่มนี้ ( กลุ่มที่ใช้ออกซิเจนและกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจน ) คือตัวจักรที่สำคัญมากที่สุดในการบำบัดน้ำเสียในทุกๆระบบบำบัด  ถ้าปราศจากจุลินทรีย์ย่อยสลายทั้งสองกลุ่มนี้ ของเสียต่างๆรวมทั้งน้ำเสียคงล้นโลกใบนี้ไปนานแล้ว นี่คือ ความสำคัญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียในการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดี
 
 ในบ่อบำบัดน้ำเสียทำไมต้องใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย ? ไม่ใช้ไม่ได้หรือ ? 
 
ในบ่อบำบัดน้ำเสียเป็นแหล่งรวมและแหล่งเก็บของเสียและน้ำเสียเพื่อทำการบำบัดก่อนปล่อยทิ้งออกสู่สาธารณะสิ่งแวดล้อมต่อไป ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า บรรดาของเสียต่างๆและน้ำเสียทั้งหมดบนโลกใบนี้จะถูกย่อยสลายและบำบัดโดยกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ดังนั้น ในบ่อบำบัดน้ำเสียทุกๆแห่งขาดเสียซึ่งจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียไม่ได้ แค่ในบ่อบำบัดน้ำเสียมีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายน้อยยังมีปัญหาแล้ว นี่คือความสำคัญและบทบาทของกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายในบ่อบำบัดน้ำเสียในทุกๆระบบล้วนต้องการดึงจุลินทรีย์ย่อยสลายให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้้ำเสียให้กับระบบบำบัดน้ำเสีย  ของเสียและน้ำเสียยิ่งมีมากเท่าใด กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้โทษยิ่งทำงานได้ดี จึงเป็นที่มาของเน่าเสียต่างๆมาจากจุลินทรีย์ที่ให้โทษกลุ่มนี้ ดังนั้น จึงต้องใช้กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบธรรมชาติบำบัดด้วยวิธีชีวภาพ จุลินทรีย์ทุกๆชนิดมีวงจรสั้งเกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมสลายไปในธรรมชาติ เกิดขึ้นตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็สลายไปอยู่ตลอดเวลาเป็นวัฎฎจักรวงจรของมัน 
 
  ในบ่อบำบัดน้ำเสียควรเติมจุลินทรีย์เมื่อใด? บ่อยแค่ไหน? 
 
ถ้าในระบบบำบัดน้ำเสียหรือบ่อบำบัดน้ำเสียมีปริมาณของจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียมากพออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเติมหรือเพิ่มจุลินทรีย์เข้าไปในระบบหรือในบ่อบำบัดนั้นๆ ( ระบบบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว ) ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูงหมายถึงระบบบำบัดน้ำเสียใดๆก็ได้ที่สามารถบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งค่าพารามิเตอร์ทุกๆตัวต้องได้มาตรฐานที่กำหนดทั้งหมดจึงจะได้ชื่อว่า ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพดี  แต่ความจริงในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่เป็นเช่นนั้น ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนใหญ่ในประเทศไทยของเรายังคงนิยมแบบชนิดเติมอากาศอยู่ ระบบนี้ถ้าทำจริงและทำถึง ดูแลรักษาดีสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องก็สามารถเป็นระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะละเลยไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าที่ควร นอกจากเวลาที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองออกตรวจสอบจึงจะให้ความสนใจในบางครั้งเท่านั้น  สิ่งที่ต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นประจำซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่เลยก็ว่าได้ในระบบบำบัดน้ำเสียหรือในบ่อบำบัดน้ำเสียก็คือ ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ต้องได้มาตรฐานหรือเข้าใกล้ค่ามาตรฐาน ซึ่งจะเป็นตัวดัชนีชี้วัดว่า น้ำเสียในบ่อบำบัดนั้นๆได้รับการบำบัดให้เป็นน้ำดีแล้ว พร้อมปล่อยทิ้งออกสู่สาธารณะสิ่งแวดล้อม  ค่าพารามิเตอร์ต่างๆจะเกี่ยวข้องกับการทำงานของจุลินทรีย์ย่อยสลายโดยตรง  ถ้าในบ่อบำบัดน้ำเสียนั้นๆมีปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายน้อย ค่าพารามิเตอร์แทบทุกๆตัวก็จะเพี้ยนไปด้วยหรือไม่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดนั่นเอง น้ำเสียก็ยังคงเป็นน้ำเสียต่อไป  การเพิ่มหรือเติมปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายลงในบ่อบำบัดสามารถเติมบ่อยได้ตามความต้องการ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียโดยตรง ไม่มีผลเสียใดๆต่อระบบบำบัด

 เรา คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในนามแบรนด์ จุลินทรีย์หอมคาซาม่า ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียมีกลิ่นหอมทันทีที่ใช้งาน กำจัดกลิ่นบ่อบำบัดน้ำเสียที่ส่งกลิ่นเหม็นใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่า จุลินทรีย์หอมบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์หอมดับกลิ่นบ่อบำบัดน้ำเสียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย

      
 

จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ราคา

ราคาจำหน่ายจุลินทรีย์หอมคาซาม่า 

แกลลอนละ  1,200 บาท ขนาดบรรจุ  20  ลิตร  จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
 

 

      
                     
ให้คำแนะนำในการประยุกต์ใช้งานให้ฟรี สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อจากเราที่นี่

มีปัญหาห้องน้ำส่งกลิ่นเหม็น บ่อบำบัดน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ บ่อเกรอะมีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจาย บ่อขยะส่งกลิ่นเหม็นรบกวน ใช้จุลินทรีย์หอมคาซาม่า กลิ่นหอมทันทีที่เริ่มใช้งาน ปลอดภัยต่อพืชและสัตว์ทุกๆชนิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไร้สารเคมีตกค้างในธรรมชาติ

Visitors: 38,387